อาชีพเสริม จับหอยเชอรี่ขาย สร้างรายได้เสริม แก่ครัวเรือน




กล้าลองกล้าลุยวันนี้ คุณต้นกล้า ชัยอนันต์ พาไปดูเบื้องหลังอีกหนึ่งอาชีพเสริมของชาวบ้าน ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กับ"อาชีพคนรับจ้างแกะหอยเชอรี่" แหล่งผลิตหอยเชอรี่ส่งขาย ทั้งในและต่างประเทศ วันละหลายพันกิโลกรัม ไปติดตามชมกันครับ วันนี้กล้าลองกล้าลุย พามาดูอีกหนึ่งอาชีพ ที่บ้านตระกาจพัฒนา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นี่คือหอยเชอรี่ ที่จับได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งขายทั้งในบ้านเรา และต่างประเทศ เรียกว่าโกอินเตอร์กันเลย ทุกวัน ที่บ้านของแม่หนึ่ง คำลอน จะมีหอยเชอรี่จากคนในหมู่บ้านมาขายให้ รวมแล้ววันละหลายพันกิโลกรัม หอยทั้งหมดจะถูกแกะเอาแต่เนื้อ ส่วนหัวส่งขาย โดย"คนรับจ้างแกะหอยเชอรี่" เหล่านี้ ก่อนจะแกะหอยเชอรี่ได้ ต้องนำมาต้มให้สุกก่อน ใช้ไฟแรงต้มให้สุก ทั่วถึงกัน ประมาณ 15 นาที ไม่เช่นนั้นหอยจะเหนียว แกะลำบาก ระหว่างนั้นต้องคอยหมั่นคน ให้หอยที่อยู่ด้านบน โดนความร้อนตลอดเวลา ที่ผมลองช่วยดูแล้ว ตำแหน่งนี้ต้องทนความร้อน อยู่หน้าเตาตั้งแต่เช้ามืดจนถึงบ่าย วันไหนที่มีหอยเชอรี่เยอะๆ ต้องต้มกัน วันละหลายร้อยครั้ง จากเดิมหอยเชอรี่เหล่านี้ ถือเป็นศัตรูพืชตัวฉกาจ โดยเฉพาะในนาข้าว ที่ในสมัยก่อนถูกหอยเชอรี่กัดกิน จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ปัจจุบันกลายเป็นเมนูยอดนิยม จนแทบจะหาไม่ทัน ทุกวัน คนรับจ้างแกะหอยเชอรี่ จะมาที่บ้านแม่หนึ่ง ที่ถือเป็นแหล่งส่งออกหอยเชอรี่แห่งใหญ่ของที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนในชุมชน มีทั้งเด็ก และคนสูงวัย โดยจะได้รับค่าจ้าง ตามจำนวนที่แกะได้ คิดกิโลกรัมละ 5 บาท แต่กว่าจะได้ซัก 1 กิโลกรัม ไม่ได้ง่ายๆ เลย ต้องทนร้อน จากหอยที่เพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆ ไหนจะเปลือกหอยคมๆ ที่หลายคนโดนบาด ถึงกับเลือดตกยางออกมาแล้ว เริ่มแกะกันตั้งแต่เช้านั่งหลังขดหลังแข็ง ทำงานวันละหลายชั่วโมง ต้องแกะเอาเฉพาะเนื้อส่วนหัวเท่านั้น ห้ามมีส่วนอื่นปะปนอยู่ด้วยเด็ดขาด ใครที่แกะได้เร็ว ก็จะได้เงินเยอะหน่อย เริ่มต้นที่ 50 บาทต่อวันไปจนถึง 200 หรือ 300 บาทก็มี นอกจากจะระวังเปลือกหอยบาดแล้ว ยังต้องระวังอันตรายอีกหลายอย่าง แกะไปก็ต้องระวังมือไปด้วย หอยเชอรี่ที่แกะเสร็จแล้ว จะนำไปล้างให้สะอาด และบรรจุใส่ถุง เตรียมขายอีกที โดยแบ่งเป็นถุงละ 10 กิโลกรัม ช่วงหน้าแล้งที่หายาก ขายถุงละเกือบ 1,000 บาท ถึงตอนนี้ก็มั่นใจได้ ว่าสะอาดและทานได้ อย่างที่ผมเอง ลองชิมแล้วอร่อยสุดๆ แม่หนึ่งบอกว่าดีใจ ที่เป็นส่วนหนึ่ง ให้คนในชุมชน ได้มีรายได้ในแต่ละวัน กว่าจะได้เงินแต่ละบาท ไม่ได้ง่ายๆ เลย แต่แหล่งที่มาของหอยเชอรี่ จำนวนมหาศาลในแต่ละวันเหล่านี้ จะมาจากไหน เย็นนี้ผมจะพาไปดูวิธีการหาที่บอกได้เลย กว่าจะได้มาแต่ละตัวลำบากไม่น้อย แถมยังเสี่ยงอันตรายอีกหลายอย่าง ติดตามได้ในเจาะประเด็นข่าวค่ำ เวลาประมาณ 17.30 น

ขอขอบคุณ คลิปวีดีโอและข้อมูล ช่อง 7 สี ช่วงกล้าลองกล้าลุย



                                                                ก้อยหอยเชอร์รี่


                                                               ลาบหอยเชอรรี่


                                                             แกงอ่อมหอยเชอรี่

*****************************************************************************************************


 photo tangan_zpsyxegueil.gif



*****************************************************************************************************
*****************************************************************************************************

แนะนำอาชีพเสริมสูตรอาหาร ต้มแซ่บกระดูกอ่อนหมู




อาชีพเสริมสูตรอาหาร วันนี้จะมาแนะนำสูตรการทำต้มแซ่บกระดูกอ่อนหมู รับรองแซ่บถึงใจกันเลยทีเดียว สำหรับแม่บ้านกำลังมองหาเมนูแซ่บ ๆ รับประทาน ขอแนะนำต้มแซ่บกระดูกอ่อนหมูซิครับ หรือท่านที่ทำธุรกิจร้านอาหารหากต้องการเพิ่มเมนูสักเมนูก็ลองเพิ่มกระดูกอ่อนหมูดูนะครับ ทำตามสูตรที่แนะนำรับรองอร่อยแซ่บ ลูกค้าติดใจกันแน่นอนครับ สำหรับขั้นตอนและวิธีทำอย่างไร เริ่มกันเลยครับ

อาชีพเสริม รายได้เสริม เลี้ยงมดแดงนอกฤดู ขายสร้างรายได้ กำไรงาม
















อาชีพเสริมหลังเลิกงาน วันนี้จะมาแนะนำวิธีเลี้ยงมดแดงนอกฤดู ขายสร้างรายได้ดีมาก ขึ้นชื่อว่าไข่มดแดงแล้ว ผมเองแต่ก่อนก็ไม่เคยกิน แต่พอมาแต่งงานกับซึ่งเป็นคนภาคอีสาน ถึงได้ลิ้มลอง เมื่อได้กินแล้วรู้สึกว่าอร่อยมาก ๆ 5 ดาวเลย ไข่มดแดงถือเป็นอาหารชั้นยอดของทางภาคอีสาน ไม่ว่าจะแกงอ่อมใส่ไข่มดแดง หมกไข่มดแดง หรือ ยำไข่มดแดงก็อร่อยมากมายเลยทีเดียวซึ่งผมชอบยำไข่มดแดง หมกไข่มดแดง โดยส่วนตัวคิดว่าอร่อยมาก ๆ ไข่มดแดงน้ันมีราคาค่อนข้างแพงเพราะไข่มดแดงจะต้องไปหาตามป่าที่มีใบค่อนข้างทึบ สูง ต้องสอยโดยใช้ไม้แหย่ กว่าจะได้มาให้เรากินได้นั้นจึงยากลำบาก ราคาจึงแพงตามไปด้วยครับ วันนี้เรารู้แล้ว่าไข่มดแดงน้ันมีราคาแพง หายาก วันนี้เราลองมาเลี้ยงมดแดงเพื่อนำไข่มาขายสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนของเราดีกว่าใหมครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเริ่มเลยครับ...


อาชีพเสริมหลังเลิกงาน ทำขนมโตเกียวขายสร้างรายได้เสริม






อาชีพเสริมหลังเลิกงาน วันนี้จะมาแนะนำสูตรและวิธีการทำขนมโตเกียว จะทำกินหรือทำขายก็สร้างรายได้เสริม เพิ่มเงินในกระเป๋าของท่านได้ หรือพ่อบ้านแม่บ้านที่มีเวลาว่าง อยากทำรับทานกับครอบครัวก็ลองศึกษาจากสูตรที่จะนำเสนอวันนี้นะครับ รับรองอร่อยและวิธีทำไม่ยากอย่างที่คิด เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยได้รับประทานขนมโตเกียวกันมาแน่นอนครับ อร่อยมีใส้กรอกอยู่ข้างในเคยแต่รับประทานวันนี้เรามาลองทำกันดูบ้างดีกว่าครับเพื่อขนมโตเกียวจะเป็นอีกช่องทางในการรายได้เสริมหรือจะทำเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน ก็ยอดเยี่ยมครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มกันเลยครับ

อาชีพเสริม รายได้เสริม ตอนปลูกมะกอต้นเตี้ย ในกระถาง ปลูกกินก็ได้ ปลูกขายก็ดี



อาชีพเสริมเสริม  รายไดเสริมหลัง วันนี้จะมาแนะนำวิธีตอนต้นมะละกอ และนำมาปลูกในกระถาง สามารถปลูกเพื่อไว้กิน หรือไว้ขายตลาดต้องการมาก เอาไว้ประดับตกแต่งบ้าน สวน ให้ดูสวยงาม สำหรับท่านที่ทำสวนอยู่แล้ว เช่นสวนมะม่วง สวนมะขาม และมีการตอนกิ่งมะม่วง มะขาม หรือผลไม้อื่น ๆ อยู่แล้ว อยากให้ลองตอนมะละกอเสริมอีกสักตัว ผมว่าสามารถสร้างรายได้เสริม ให้ท่านได้อีกทางหนึ่งนะครับ

 ทำไมต้องตอนมะละกอล่ะ??? 
1. มะละกอตอนได้คุณสมบัติต้นแม่ครบทุกประการ การรอเมล็ดจากผลผลิตไปปลูกจะเพี้ยนไปทุกช่วงรุ่น เช่น เพี้ยนรสชาติ เพี้ยนสี เพี้ยนขนาด เพี้ยนเนื้อบางหนา จนกระทั่งเพี้ยนไม่เหลือเค้าสายพันธุ์เดิมก็มี 
 2. เมื่อซื้อเมล็ดพันธุ์จากบริษัทมาปลูก จะได้คุณภาพดีเฉพาะรุ่นแรก หากรอเมล็ด(ตามข้อ 1 ) รุ่นสองและรุ่นต่อไปเพี้ยนไปเรื่อย เพราะเป็นการขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศ เมล็ดพันธุ์จากบริษัทต่าง ๆ ถูกโปรแกรมมาให้ได้ผลผลิตดีรุ่นเดียวเท่านั้น ถ้ารุ่นต่อไปเราเอาเมล็ดพันธุ์ไปปลูกต่อได้ดีเหมือนรุ่นแรก บริษัทจะขายออกเหรอครับ 
     3. มะละกอตอน ต้นเตี้ย ไม่ต้องชะเง้อสอยให้ลูกตกจนช้ำ การปลูกเพื่อการตลาดจะห่อผลง่าย ดูแลง่าย เก็บง่ายผลไม่ช้ำเป็นแผล ตลาดต้องการ
     4. สามารถปลูกลงกระถาง เหมาะสำหรับสังคมเมือง ผู้ไม่มีที่ดินสำหรับลงปลูก เคลื่อนย้ายสะดวก 
     5. ใช้ประดับได้ ทานด้วย


                      การตอนมะละกอตอนอย่างไร???มาดูกัน



1. ตอนจากกิ่งแขนงของต้นแม่ที่ให้ผลผลิตดี มะละกอนั้นจะมี 3 เพศคือต้นตัวเมีย ต้นตัวผู้และต้นกระเทย มะละกอที่ให้ผลผลิตดีคือมะละกอกระเทย เราจะตัดต้นแม่ที่มีอายุสูงจากพื้นราว 1.5 เมตร มะละกอมีลำต้นกลวง ให้ใช้พลาสติกผูกปิดไว้ด้านบน รอให้แตกแขนง หรือมะละกอแก่จัดบางต้นอาจมีแขนงก็สามารถตอนได้เลย  



2.การตอนจากต้นพันธุ์ดีที่เกิดจากเมล็ดพันธุ์รุ่นแรก ขนาดตั้งแต่เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว จนถึงขนาดใหญ่ โดยกะระยะที่ตอนจากยอดลงมาราว 1 – 2 ฟุต (ตามความต้องการว่าต้องการให้เตี้ยแค่ไหน 



                                                          อุปกรณ์การตอน 





1.ถุงบรรจุขุยมะพร้าวขนาดใหญ่กว่าทั่วไป(ราวถุงแกง)
    2.มีดคมหรือคัตเตอร์ใหญ่
    3.เชือกฟางสำหรับผูกรัด
    4.ไม้เสียบลูกชิ้น/ไม้จิ้มฟันหรือไม้อื่นใด สำหรับกันรอยตัดไม่ให้เนื้อต้นมะละกอกลับมาทบกันอีก 

                                                             การบากกิ่งแขนง
                   
                           
  บากด้วยมีดคมลึก 2 ใน 3 ของกิ่ง ขั้นตอนนี้ต้องระวังไม่ให้แขนงขาดจนเสียเปล่า นำไม้อัดเข้าไปตรงรอยแผล แยกให้เนื้อแขนงมะละกอออกจากกัน
     การบากมะละกอต้นอ่อน อาจพบปัญหาจากต้นอ่อนที่มีรูกลางต้น จะทำให้หักโค่นง่ายเมื่อเกิดลมแรง อาจใช้ไม้ดามต้นไว้ระยะหนึ่ง …การบากต้นอ่อนบางต้นแม้จะใช้ไม้ยันไว้ แต่เนื้อลำต้นอ่อนอาจยุบตัวลงมาทบกันอีก ให้แก้ไขโดยบาก 2 ครั้ง คือตัดเนื้อออกมาแล้วอัดไม้เข้าไป 
     การอัดไม้ ไม่มีวิธีตายตัว อาจอัดขวางหรือตามยาวก็ได้ สาระสำคัญอยู่ที่เนื้อต้นมะละกอต้องไม่กลับมาทบกันอีก

                                  แสดงการบากลำต้นและอัดไม้


       ผ่าถุงขุยมะพร้าวที่หมาดน้ำปิดคร่อมส่วนที่บากให้มิด จะคร่อมกิ่ง/ต้น ทั้งหมดหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องมิดรอยบาก การผ่าถุงขุยมะพร้าว ผ่าแนวตั้งหรือแนวยาวก็ให้ดูสภาพแต่ละกิ่ง/ต้น เป็นหลักความเหมาะสม (ดูหน้างาน)

                        แสดงการใช้ถุงขุยมะพร้าวผ่า คร่อมลำต้นตรงรอยบาก

                จากนั้นใช้เชือกฟางผูกรัดถุงขุยมะพร้าวให้แน่น อย่าให้หลวมจนขยับได้

                                                    แสดงการมัดถุงขุยมะพร้าว

                                แสดงการตอนกิ่งแขนงจากต้นแม่ที่ตอนเสร็จแล้ว

                                  แสดงการตอนสำเร็จแล้วจากต้นพันธุ์ดีรุ่นแรก

                                         แสดงการตอนกิ่งแขนงจากต้นแม่ชัด ๆ

การตอนมะละกอใช้ระยะเวลาประมาณ 40 วัน จึงจะเกิดรากใหม่แข็งแรง สามารถตัดได้ ส่วนต้นแม่หลังจากตัดกิ่งแขนงออกไปแล้วอาจโทรม ให้ใช้ปุ๋ยยูเรีย(46-0-0) บำรุงให้เกิดกิ่งแขนงต่อไปได้เรื่อย ๆ


 กิ่งแขนงหรือต้นที่ตัดออกมาจะเกิดอาการใบเฉาในไม่กี่นาที เนื่องจากมะละกอใบใหญ่ คายน้ำเร็วมาก เมื่อขาดน้ำเลี้ยงจากต้นแม่ จึงควรเลือกเวลาตัดในตอนเย็นหรือในวันแดดน้อย ยิ่งมีฝนด้วยจะดีมาก เพื่อป้องกันการเสียน้ำของกิ่งตอน ควรตัดก้านใบห่างจากกิ่งราว 1 นิ้ว ให้เหลือใบน้อยที่สุดราว 2 – 3 ใบและเหลือยอดไว้แค่นั้น ก้านใบที่เหลือจากการตัดออก จะถูกสลัดทิ้งเองในเวลา 3 – 5 วัน
การนำลงปลูก จะปลูกในกระถางหรือปลูกลงดินก็ได้ ระวังอย่ากดดินเหนือกระเปาะตอนหนักมือเกินไปเพราะจะทำให้รากมะละกอขาดได้


มะละกอที่ลงปลูก อาจมาจากกิ่งแขนงที่โค้งงอ แก้ไขโดยให้วางกระถางหันยอดที่โค้งงอนั้นเข้าหาร่ม มะละกอจะดัดตัวเองให้ตรงในไม่กี่วัน พร้อมกับการแตกใบใหม่ ในระยะแรกราว 12 วัน …หลังจากนั้นเริ่มให้ปุ๋ยยูเรียและสูตรอื่นที่ต้องการได้


ลงภาพเพิ่มเติม มะละกอต้นแม่พันธุ์ดีที่ตัดเพื่อให้แตกแขนงสำหรับตอนกิ่ง แผลที่ลำต้นส่วนบนจะค่อย ๆ หายโดยมีเนื้อเยื่อคล้ายเปลือกนอกมาห่อหุ้ม ทำให้ลำต้นไม่เน่า บำรุงด้วยปุ๋ยสามารถเติบโตให้กิ่งแขนงต่อไปอีกยาวนาน

                                    ภาพต้นที่ถูกตัดทั้งต้นเพื่อให้แขนง สมบูรณ์ดีต่อไป



                 
  เครดิต ที่มา :  kaijeaw

*****************************************************************************************************
 photo tangan_zpsyxegueil.gif


*****************************************************************************************************
*****************************************************************************************************

อาชีพเสริม ปลูกแคนตาลูปไร้ดินในโรงเรือน ใช้พื้นที่น้อย กำไรงาม

http://www.matichon.co.th/online/2015/09/14411830231441184088l.jpg


อาชีพเสริมหลังเลิกงาน  วันนี้ขอแนะนำการปลูกแคนตาลูป ในโรงเรือนไร้ดิน ใช้พื้นที่น้อย สามารถสร้างกำไรได้งาม สเน่ห์ของสุโขทัย นอกจากเป็นเมืองสงบ เต็มไปด้วยโบราณสถานแล้ว อาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารจากปลา อุดมสมบูรณ์มาก ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวจริงๆ ใครที่แวะเวียนไปจังหวัดนี้ สามารถหาร้านอาหารเล็กๆ แต่มีปลาแม่น้ำแท้ๆ ให้ได้อร่อยกัน

ทางด้านการเกษตร สุโขทัยขึ้นชื่อหลายอย่าง

ที่ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย มีอากาศแบบเดียวกับอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ นอกจากปลูกลองกอง ทุเรียนหลงลับแล คุณภาพดีแล้ว ตำบลนี้เป็นถิ่นเกิดของทุเรียนพันธุ์จระเข้ ต้นเดิมอายุ 200 ปี เป็นทุเรียนรสชาติดีมาก
ขยับมา อำเภอสวรรคโลก มีพืชไร่หลายอย่าง ริมน้ำยมมีละมุด มะยงชิด ปลูกแบบอาศัยธรรมชาติ

อำเภอเมือง มีปลูกยาสูบ อำเภอคีรีมาศและทุ่งเสลี่ยม มีนมดี หมายถึงกิจการเลี้ยงโคนมเจริญรุ่งเรือง อำเภอกงไกรลาศ นอกจากนาข้าว อำเภอนี้เป็นแหล่งผลิตปลาร้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย


http://www.matichon.co.th/online/2015/09/14411830231441184094l.jpg


เมื่อ12 ปีที่แล้ว คุณยศวัฒน์ ศิริอธิพันธ์ หรือ คุณต๊อก เจ้าของสุโขทัยการเกษตร ซึ่งจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช รวมทั้งปัจจัยการผลิตทางการเกษตรทุกชนิด ลงพื้นที่ส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดสุโขทัย ปลูกแตงโม ปลูกพริกซอส เพื่อส่งโรงงาน
พื้นที่ปลูกพริกซึ่งทำหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวในนา มีพื้นที่ 20 ไร่ ต่อปี จากนั้นพื้นที่ขยายเพิ่มขึ้นทุกปี จนกระทั่งปัจจุบัน พื้นที่ปลูกพริกปีหนึ่งมีราว 4,000-5,000 ไร่ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะผู้ส่งเสริมคือคุณต๊อก ดูแลเกษตรกรดี เกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้ดี ผลผลิตมีคุณภาพ ผู้รับซื้อคือโรงงานมีความมั่นใจ จึงขยายงานกันทุกส่วน นั่นหมายถึงปีหนึ่งๆ เงินสะพัดหลังนามากมายมหาศาล

“สุโขทัยการเกษตร ตั้งอยู่ เลขที่ 9-11 ถนนตัดใหม่สายเอ ตำบลธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ที่ร้านจำหน่ายปัจจัยทุกอย่าง ช่วงนี้พันธุ์ผักจำหน่ายดี อย่าง เมล็ดแตงกวา มะระ บวบ ฟักทอง กะหล่ำดอก ถั่วฝักยาว โหระพา...เป็นพืชอายุสั้น สร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกได้เร็ว...งานส่งเสริมปลูกพริก เราดูแลผู้ปลูกอย่างดี มีองค์ความรู้ โดยเฉพาะเรื่องของต้นทุน” คุณต๊อก เล่า

ปลูกแคนตาลูปไร้ดิน ในโรงเรือน หวังสร้าง งานทำเงินอย่างต่อเนื่อง

เทคโนโลยีชาวบ้าน เคยนำเสนอ งานปลูกพริกซอส ที่ส่งเสริมโดยคุณต๊อกไปไม่นานนัก เมื่อต้นปี 2558 ได้รับโทรศัพท์จากนักส่งเสริมการเกษตรคุณธรรมสูง ว่าตอนนี้มีงานใหม่ที่น่าสนใจยิ่ง นั่นก็คือ งานปลูกแคนตาลูปโดยไม่ใช้ดินในโรงเรือน

แรกสุดนัดหมายกันเดือนเมษายน แต่โอกาสที่ได้ไปเยี่ยมชมเป็นเดือนกรกฎาคม จุดนัดหมายไม่ได้เป็นแปลงของเกษตรกรอย่างเก่าก่อน แต่เป็นที่ดินของคุณต๊อกเองที่ตั้งแปลงของคุณต๊อก ไปจากจังหวัดพิษณุโลก ก่อนถึงตัวเมืองไม่มากนัก ตรงนั้นเป็นสี่แยก “กระชงค์” เลี้ยวซ้ายไปราว 1.5 กิโลเมตร ขวามือเป็นบ้านทรงไทย เสาบ้านใหญ่มาก รู้จักกันดีในนาม “บ้านช้างใหญ่” ซ้ายมือมีโรงเรือนปลูกพืชผุดขึ้นหลายโรง แปลงปลูกนี้ ตั้งอยู่เลขที่ 60/2 หมู่ที่ 12 ตำบลยางซ้าย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

เหตุที่คุณต๊อกปลูกแตงแคนตาลูปในโรงเรือน และทำอย่างจริงจังนั้น เพราะเขาเป็นคนหัวก้าวหน้า คิดทำโน่นทำนี่อยู่เสมอ ครั้นเมื่อมีโอกาสได้พูดคุย เจ้าตัวอธิบายเพิ่มเติมว่า ตนเองได้ส่งเสริมเกษตรกรปลูกพริก ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้ดี ลืมตาอ้าปากได้ แต่เกษตรกรเหล่านั้นวัยได้ร่วงโรยตามกาลเวลา งานปลูกแคนตาลูปในโรงเรือน เป็นงานไม่หนักมาก อาจจะลงทุนมากในระยะแรก แต่ต่อมา งานจะเบาลง คนสูงอายุขึ้น สามารถทำได้ เพราะขั้นตอนการดูแลไม่ยาก
สิ่งที่เขาทำขึ้น เพื่อรองรับเกษตรกรผู้ปลูกพริกที่ต้องการเปลี่ยนการผลิตนั่นเอง ส่วนผู้สนใจทั่วไปที่อ่านพบข้อเขียนนี้ คุณต๊อกก็ยินดีที่จะพูดคุยและแนะนำได้

โรงเรือน ต้นทุนสูง แต่ใช้ได้นาน 10 ปี


http://www.matichon.co.th/online/2015/09/14411830231441184111l.jpg


หลังดื่มน้ำขิงชื่นใจแล้ว คุณต๊อกพาเดินออกจากบ้าน ข้ามไปยังโรงเรือนปลูกแคนตาลูป ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านหลังใหญ่นั่นเอง คุณต๊อกเริ่มอธิบายเป็นขั้นเป็นตอน เกี่ยวกับการปลูกแคนตาลูปไร้ดินในโรงเรือน อย่างแรกสุด เป็นปัจจัยสำคัญ คือโรงเรือน

โรงเรือนที่สร้างขึ้นมีขนาดความกว้าง 5 เมตร ยาว 30 เมตร หลังคาโรงเรือน เป็นพลาสติกกันน้ำฝน ข้างๆ เป็นตาข่าย พื้นปูด้วยวัสดุกันไม่ให้วัชพืชขึ้น รวมระบบน้ำในโรงเรือน เชือกแขวน ถุงปลูก และอื่นๆ โรงเรือนมีมูลค่า 1.5 แสนบาท อายุการใช้งาน 10 ปี

ระยะเวลา 1 ปี เจ้าของสามารถปลูกแคนตาลูปได้ 5 ครั้ง จากการศึกษาแล้วพบว่า ระยะเวลา 1 ปี สามารถคืนทุนได้ จะคืนได้อย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป

ปลูกอย่างไร


โรงเรือน ขนาด 5 คูณ 30 เมตร ปลูกแคนตาลูปได้ 500 ต้น การวางถุงปลูก วาง 5 แถว จำนวนแถวละ 100 ถุง หรือ 500 ต้น ขณะเดียวกัน ด้านบนของถุงก็มีราวสำหรับมัดเชือกโยง เพื่อให้เถาของแตงไต่ขึ้นเชือกตามอายุของเขา

วัสดุปลูก เขาใช้แกลบเผา 100 เปอร์เซ็นต์ บรรจุในถุงสีขาว 2 ถุง ซ้อนทับกัน โดยสลับกันปลูก อย่างชุดนี้เก็บเกี่ยวผลผลิตโดยถุงใบบน ก็ยกถุงใบล่างขึ้นมาปลูกแทน เป็นการพักวัสดุ ถามคุณต๊อกว่า ทำไมไม่ใช้ถุงดำ เขาบอกว่า ถุงดำน่าจะดูดความร้อนมากกว่า จึงใช้ถุงสีขาว

เรื่องของวัสดุปลูก คุณต๊อกบอกว่า ปลูกด้วยแกลบเผา มีปัญหาเรื่องโรคน้อยหรือแทบไม่มีเลย โอกาสต่อไป อาจจะศึกษาโดยผสมอย่างอื่นเข้าไป เช่น ขุยมะพร้าว

แคนตาลูปที่ปลูกอยู่ขณะนี้เป็นพันธุ์กรีนเน็ต และพันธุ์พอท ออเรนจ์ เจ้าของคือ บริษัท เพื่อนเกษตรกร จำกัด มีสำนักงานใหญ่อยู่จังหวัดเชียงใหม่

ก่อนปลูก เขาเพาะกล้าอายุได้ 9 วัน แล้วจึงนำลงปลูก จากนั้นนับไปอีก 65 วัน จึงเก็บผลผลิตได้ หากนับตั้งแต่เพาะกล้า จนเก็บผลผลิตได้ ใช้เวลา 74 วัน

http://www.matichon.co.th/online/2015/09/14411830231441184107l.jpg

การดูแลอย่างอื่น เมื่อต้นโตขึ้น ก็จับต้นให้พันขึ้นกับเชือก  ช่วงดอกบานคือหลังปลูกไปแล้ว 22 วัน เจ้าของต้องผสมเกสรให้ ทั้งนี้เนื่องจากในโรงเรือนไม่มีผึ้งช่วยผสมเกสร วิธีการผสม ช่วงเย็นเก็บเกสรและผสมให้เวลา 07.00 น. ของวันใหม่ เมื่อผลโตใช้เชือกอีกเส้นหนึ่งโยงผลต่างหาก ในโรงเรือน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 40-45 องศาเซลเซียส

ดูแลอย่างไร ให้มีคุณภาพ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่น้ำและปุ๋ย

งานปลูกแคนตาลูปในโรงเรือนให้น้ำวันละ 8 ครั้ง...อย่าเพิ่งท้อหากอยากปลูก เขามีวิธีการให้น้ำแบบอัตโนมัติ ต่อจากแหล่งน้ำ ลงที่ถุงโดยตรง ถุงใครถุงมัน

เมื่อปลูกใหม่ๆ เขาให้น้ำครั้งหนึ่งนาน 2 นาที จากนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 4, 6, 8 นาที จนระยะกลางๆ ให้นาน 18 นาที ต่อครั้ง เมื่อแตงมีอายุมากขึ้นก็ลดระยะเวลาให้น้ำลง จาก 18 นาที เหลือ 16-14-10 นาที จนใกล้เก็บเกี่ยวก็งดน้ำ จะช่วยให้แคนตาลูปมีความหวานตามที่ต้องการ

ช่วงชีวิตของแตงแคนตาลูป ตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวได้ ใช้น้ำไปทั้งหมด 65 ลิตร ต่อต้น เรื่องปุ๋ย...เป็นปุ๋ยที่ละลายไปกับน้ำ เขาให้ปุ๋ยทุกวัน เข้าทำนองให้น้อยแต่บ่อยครั้ง ช่วงที่ปลูกใหม่ คุณต๊อกแนะนำว่า ปุ๋ยที่ให้เป็นสูตรตัวหน้าสูง (ไนโตรเจน) ช่วงมีดอก เพิ่มตัวกลาง ก่อนเก็บผลผลิต เน้นตัวหลังคือ โพแทสเซียม เพื่อเพิ่มความหวาน อย่างสูตร 0-0-60

ศัตรูที่ควรระวัง...คุณต๊อก บอกว่า มีเพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว แต่ที่ผ่านมา เน้นทำความสะอาดโรงเรือนด้วยคลอรีน จึงไม่มีการระบาดของศัตรูพืช ถึงแม้บางโรงเรือนจะปลูกต่อเนื่องมานานแล้วก็ตาม


ผลตอบแทน มากน้อยแค่ไหน  จะแนะนำเกษตรกรอย่างไร

คุณต๊อก อธิบายว่า โรงเรือนหนึ่ง ปลูกแคนตาลูป 500 ถุง แต่ละถุงให้ผลผลิตได้ 1 ผล แต่ละผลน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม
จำนวนต้น 500 ต้น ต่อโรงเรือน หักต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก 50 ต้น เหลือ 450 ต้น หรือ 450 ผล แต่ละผลน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ก็จะมีผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ 675 กิโลกรัม หากขายแคนตาลูป กิโลกรัมละ 50 บาท จะมีรายได้ ต่อโรงเรือน 33,750 บาท หากขายแคนตาลูป กิโลกรัมละ 80 บาท จะมีรายได้ ต่อโรงเรือน 54,000 บาท

ที่ผ่านมา คุณต๊อกขายผลผลิต กิโลกรัมละ 80 บาท มีผู้ค้าจากจังหวัดเชียงใหม่มารับไปทั้งหมด นั่นเท่ากับว่า ผู้ปลูกมีรายได้ ต่อโรงเรือน 54,000 บาท ในระยะเวลา 65 วัน ในที่นี้ หักลบระยะเวลาเพาะกล้าออกไป 9 วัน ซึ่งงานเพาะกล้า มีโรงเรือนเพาะอยู่ต่างหาก ด้วยเหตุนี้ ปีหนึ่งๆ จึงหมุนเวียนใช้โรงเรือนต่อครั้งต่อปีมากขึ้น

ด้วยรายได้อย่างที่แนะนำมา หากปลูกแคนตาลูป 5 ครั้ง ต่อปี เกษตรกรจะมีรายได้ ต่อโรงเรือน 270,000 บาท ต่อปี รายได้ขนาดนี้จึงสามารถคืนทุนโรงเรือนได้ภายใน 1 ปี อย่างที่คุณต๊อกว่าไว้

ดูจากรายได้แล้วถือว่ายอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ ผู้สนใจต้องศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน โดยปรึกษาผู้รู้ เรื่องการลงทุน การผลิต และที่สำคัญคือ การตลาด

“ตอนนี้ ในโรงเรือน มีทดลองปลูกแตงโมไม่มีเมล็ดด้วย...พื้นที่รอบๆ โรงเรือนควรโล่ง มีลมพัดผ่าน ตอนนี้ผมมีปลูกประมาณ 9 โรงเรือน พื้นที่ไม่ถึง 2 ไร่ดี ราว 7 งาน...มีโครงการคัดเลือกเกษตรกรที่ปลูกพริก ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 200-300 ครอบครัว แต่ไม่ได้หมายความว่าให้มาปลูกทั้งหมด คัดเลือกคนที่มีใจรัก ชอบ มีความพร้อม ให้มาปลูกแคนตาลูป ครอบครัวละ 4 โรง เดือนหนึ่งตัด 2 โรง เรามีตลาดให้ หากพื้นที่ปลูกมากก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งปี”

คุณต๊อกเล่า และบอกอีกว่า “ปี 2559 จะขยายพื้นที่ปลูกให้กับผู้สนใจ 50-80 โรง จากนั้นจะขยายตามความต้องการของตลาด เป้าหมายในอนาคตคือ อยากให้มีตัดทุกวัน...วันละอย่างน้อย 1 โรงเรือน เรื่องการลงทุน คงให้เกษตรกรมีส่วนร่วม โดยเฉพาะโรงเรือน...ในอนาคตอาจจะมีการเปิดร้านให้คนมาซื้อผลผลิตโดยตรง มีผลิตภัณฑ์จากแคนตาลูป อาจจะเปิดร้านแถวนี้”

เกษตรกรที่อยู่ใกล้เคียง อยากศึกษาดูงาน หรืออยากเปลี่ยนงานจากทำนา ลองปลูกพืชชนิดนี้ดู ถามไถ่ คุณยศวัฒน์ ศิริอธิพันธ์ ได้ตามที่อยู่ หรือโทรศัพท์ (089) 961-3423

เครดิตข้อมูล พานิชย์ ยศปัญญา
นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน
*****************************************************************************************************

 photo tangan_zpsyxegueil.gif




*****************************************************************************************************

*****************************************************************************************************

อาชีพเสริม รายได้เสริม เลี้ยงปลาช่อนในบ่อซีเมนต์




วิธีการสร้างอาชีพเสริมหลังเลิกงาน   รายได้เสิรมพิเศษหลังเลิกงาน  พบกันอีกเช่นเคยครับ วันนี้มีอาชีพเสริม ทางด้านการเกษตรมาแนะนำ เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนคนไทยทุกคน หรือคนที่ทำการเกษตรอยู่แล้วมีเวลาว่างจากงานทางการเกษตรของท่าน ต้องการหาอาชีพเสริม รายได้เสริม  เพิ่มเงินให้แก่ครอบครัวของท่าน อาชีพเสริม ที่จะมาแนะนำให้ลองทำดูในวันนี้คือ เลี้ยงปลาช่อนในบ่อซีเมนต์ จับขายได้กำไรงามครับสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำลำคลองบ้านเรานั้นถือได้ว่าเป็นอาหารอันโอชะของคนไทยมาช้านานแล้วเพราะว่าเมื่อก่อนเนื้อสัตว์ที่หาง่ายไม่ต้องซื้อไม่ต้องหาก็คือเนื้อปลาและสัตว์น้ำทั่วไปนั่นละครับ แต่เมื่อเทียบกับสมัยนี้แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปด้วยแม้กระทั่งจำนวนประชากรก็มากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยทำให้จำนวนปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ นั้นไม่เพียงพอต่อการบริโภคเลยต้องมีการเลี้ยงเพื่อการค้า ซึ่งเป็นอาชีพเกษตรกรรม ที่ทำเงินให้กับคนทำอาชีพนี้มานักต่อนักแล้ว ซึ่งวันนี้ผมอยากจะมาแนะนำอาชีพเกษตรกรรมคือ การเลี้ยงปลาช่อนในบ่อซีเมนต์ ปลาช่อนถือได้ว่าเป็นปลาที่มีเนื้ออร่อย เนื้อแน่น ก้างน้อย เป็นที่ต้องการของนักบริโภคทั้งหลายทำให้ความต้องการในตลาดจึงมาก เรียกว่ามีเท่าไรขายหมดแต่ในตอนแรกผมคงไม่แนะนำให้เพื่อนๆ เลี้ยงเป็นอาชีพหลักหรอกครับแต่อยากให้เลี้ยงเป็นอาชีพเสริมในบริเวณบ้านก่อนเพื่อที่จะได้เรียนรู้นิสัยของปลาช่อนและสร้างประสบการณ์ในการทำอาชีพนี้ให้ดีเสียก่อนเมื่อคิดว่ามั่นใจว่าเลี้ยงรอดแล้วก็ค่อยพัฒนาจากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลักต่อไปนะครับ 


ปลาช่อนเป็นปลาน้ำจืดที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทย พบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดทั่วไปในประเทศไทย เป็นปลาที่มีรสชาติดีมีก้างน้อย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด โดยธรรมชาติแล้วปลาช่อนเป็นปลาประเภทกินเนื้อ กินสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ รวมทั้งปลาเล็กปลาน้อย และแมลงต่าง ๆในน้ำเป็นอาหาร เมื่ออาหารขาดแคลนทำให้ปลาช่อนตัวใหญ่หันกลับมากินปลาช่อนตัวเล็ก ซึ่งการเลี้ยงปลาช่อนเรื่องอาหารเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะถ้าอาหารขาดแคลนปลาช่อนจะกินกันเอง

            บ่อเลี้ยงปลาช่อนไม่จำเป็นต้องเป็นบ่อซีเมนต์เสมอไปที่สำคัญต้องมีที่กั้นด้วย





รูปร่างลักษณะปลาช่อน เป็นปลาที่มีเกล็ดขนาดใหญ่ ลำตัวอ้วนกลม ยาวเรียว ท่อนหางแบนข้าง หัวแบนลง ปากกว้างมาก มีฟันซี่เล็ก ๆ อยู่บนขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบหลังและครีบก้นยาวจนเกือบถึงโคนหาง ครีบหางกลม ลำตัวส่วนหลังมีสีดำ ท้องสีขาว ด้านข้างลำตัวมีลายดำพาดเฉียง มีอวัยวะพิเศษช่วยในการหายใจ ด้วยเหตุนี้ปลาช่อนจึงสามารถที่จะเคลื่อนไหวบนบกได้ หรือฝังตัวอยู่ในโคลนและอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีออกซิเจนต่ำได้เป็นเวลานาน ๆ

พื่อนๆไทยอาชีพคนไหนไม่สะดวกที่จะทำบ่อซีเมนต์ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เราหาบ่อปลาที่อยู่หน้าบ้านที่มีขนาดไม่เล็กมาก หรือจะหาวัสดุที่มีขนาดไม่เล็กมากมาเลี้ยงปลาช่อนก็ได้เหมือนกัน เริ่มต้นเลี้ยงปลาช่อนเราควรที่จะใส่น้ำไปในระดับหน้าแข้งของเรา โดยหาลูกครอกของปลาช่อนมาปล่อยไว้ในจำนวนที่ไม่มากนัก  หลังจากปล่อยลูกครอกลงไปแล้วเราก็ควรที่จะหมั่นเติมน้ำลงไปเรื่อย ๆและควรที่จะหาผักตบชวาหรือพรรณไม้ที่สามารถบังแดดและเป็นที่หลบซ่อนให้กับลูกครอก ซึ่งบ่อที่เราไว้เลี้ยงนั้นเราควรหาตาข่ายมากั้นรอบบ่อด้วยเพื่อป้องกันปลาช่อนกระโดดหนี โดยอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาช่อนควรที่จะเป็นอาหารสำเร็จรูปสำหรับการเลี้ยงปลาขุน เพราะว่าอาหารเหล่านี้จะมีโปรตีนที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของปลาช่อน

หลังจากเริ่มเลี้ยงจนจับปลาช่อนได้นั้นจะใช้เวลาประมาณ 8-9 เดือน โดยที่ปลาช่อนจะขายตามน้ำหนักของตัวปลาโดยอยู่ประมาณ 70-80 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว

แต่ถ้าเลือกได้ควรจะเป็นบ่อยาวมากกว่านะครับหรือจะเป็นบ่อวงซีเมนต์ก็ได้แต่ถ้าเลือกได้ควรจะเป็นบ่อยาวมากกว่านะครับ
 
เครดิต ข้อมูล รูปภาพ มติชนออนไลน์
*****************************************************************************************************


 photo tangan_zpsyxegueil.gif



*****************************************************************************************************
*****************************************************************************************************

ปลูกหอมใส่ถาดไข่ สร้ายรายได้เสริม อาชีพเสริม สุดยอดไอเดียร์



รายได้เสริม อาชีพเสริมหลังเลิกงาน วันนี้เรามาปลูกหอมใส่ถาดไข่กันดีกว่าครับ ถือว่าเป็นไอเดียร์อันสุดยอดในการปลูกหอมที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก ไม่ต้องใช้ดิน หอมถือเป็นเครื่องแกงของไทยที่นำมาปรุงในการทำเครื่องแกงของไทยมาช้านาน ในการทำอาหารต่าง ๆ ของไทย ไม่ว่าจะแกง หรือ ยำ ล้วนแต่ต้องใช้หอมทั้งสิ้น หอมเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยากในการดูแล เพราะฉะนั้นการปลูกหอมจึงเป็นเรื่องที่เราทุกคนสามารถทำได้ และยิ่งเป็นการปลูกในถาดไข่ด้วยแล้ว ยิ่งง่ายไปกันใหญ่ อยู่บนคอนโด อยู่ในพื้นที่จำกัดเราก็สามารถปลูกหอมไว้รับทาน หรือ เอาไว้ขายสร้างรายได้เสริม อาชีพเสริม  ให้แก่ครัวเรือน เป็นอีกช่องทางหนึ่งเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าของท่าน ขั้นตอนและวิธีจะเป็นอย่างไร มาเริ่มกันเลยครับ

ทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สร้างรายได้เสริม ทำเป็น อาชีพเสริมหลังเลิกงาน ช่วงเย็น ๆ กันดีกว่า



ช่วงเย็น ๆ หลังเลิกงานไม่รู้จะทำอะไร แนะนำมาทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนสร้างรายได้เสริมหลังเลิกงานกันดีกว่าครับ ขั้นตอนและวิธีการทำก็ไม่ยาก ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนใช้ต้นทุนต่ำ ทำขายกำไรดี จะทำกิน หรือทำเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานก็เยี่ยมเลยทีเดียว วันจะมานำเสนอสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน พร้อมน้ำจิ่มสูตรเด็ด ๆ รับรองอร่อยเหาะแน่นอนครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลย...

แจกสูตรวิธีทำทำกล้วยทอด สร้างรายได้เสริม อาชีพเสริม




"สวัสดีครับ" วันนี้มีสูตรและ วิธีทำกล้วยแขกทอดมานำเสนอ ของกินยอดฮิตเชื่อว่าทุกคนเคยรับทานแน่นอน กลัวยแขกทอดจัดว่าเป็นขนมนะครับ ตามความคิดของผมเพราะดูส่วนประกอบแล้ว จะเอียง ๆไปทางของหวานซะมากกว่าครับ สำหรับท่านที่กำลังมองหาสูตรวิธีทำกล้วยแขกทอด  เพื่อสร้างอาชีพเสริมหลังเลิกงาน หรือ รายได้เสริมพิเศษ หรือ จะทำเพื่อรับประทานในครัวเรือน เชิญศึกษาได้นะครับ

Banner adz