เลี้ยงแมงป่องช้างขาย สร้างรายได้เสริม เลี่ยงดี มีกำไร สร้างรายได้งาม แมงป่องช้างเป็นแมลงที่คนรุ่นก่อนบริโภคกันเป็นอาหาร โดยเฉพาะภาคอีสานนำมาปิ้ง และตำกับน้ำพริก เช่นเดียวกับแมงดา ปัจจุบันยังมีการบริโภคกันอยู่ เนื่องจากมีสรรพคุณทางยา สามารถรักษาโรคบางอย่างได้ และตำหรับยาจีนหลายตัวก็ใช้แมงป่องช้างเป็นส่วนประกอบ ทำให้ความต้องการของตลาดมีอยู่พอสมควร ดังนั้นถ้าเป็นไปได้น่าจะหันมาเลี้ยงแมงป่องช้างเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานหรือเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือน เนื่องจากแมงป่องช้างยังเป็นที่ต้องการของตลาดมากและประเทศไทยก็ยังมีฟาร์มแมงป่องช้างเลี่ยงอย่างจริงจัง แมงป่องช้างที่นำเข้ามาขายในปัจจุบันก็นำเข้ามาจากกัมพูชา ซึ่งจับมาจากธรรมชาติคาดว่าในอนาคตอันไกล้น่าจะมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ทำให้แมงที่นำมาบริโภครวมถึงแมลงป่องช้างต้องมาจากการเลี้ยง ปัจจุบันก็มีตัวอย่างของแมลงหลายชนิดที่มีการเลี้ยงอย่างแพร่หลาย
วิธีการเลี้ยงมีดังนี้
1. สถานที่เลี้ยงควรมีร่ม เงียบสงบ ไม่มีศัตรูรบกวน โดยเฉพาะนกและไก่
2. อุปกรณ์การเลี้ยง
- วงบ่อซีเมนขนาดกว้าง 80 เซ็นติเมตร สูง 50 เซ็นติเมตร ติดเทปกาวรอบวงบ่อเพื่อให้รื่น ป้องกันไม่ให้แมลงไต่ออกจากบ่อเลี้ยง ใส่ดินหนา 5 - 10 เซ็นติดเมตร ใช้ตาข่ายไนลอนสีเขียวทำเป็นผ้าปิด เพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้เข้ามาทำลาย
- ภาชนะใส่น้ำ
- ที่หลบซ่อน
3. พันธ์แมลงป่อง แมลงป่องที่ใช้ทำพันธ์ คัดเลือกตัวที่ขนาดใหญ่ แข็งแรงอวัยวะครบสมบูรณ์ มาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์
การจัดการ
1. บ่อหนึ่งเลี้ยงแมงป่องได้ 30 ตัว ( ตัวผู้ 15 ตัว ตัวเมีย 15 ตัว )
2. อาหารของแมลป่องเป็นพวกสัตว์เล็กและแมลต่าง ๆ หรือเลี้ยงด้วยเศษเนื้อก็ได้ โดยให้อาหารในช่วงเย็นวันเว้นวัน หรือ จนกว่าอาหารในบ่อจะหมด
3. ต้องให้น้ำกินตลอดเวลาเพราะแมลงป่องขาดน้ำไม่ได้
4. ควรทำความสะอาดบ่อหรือเศษอาหารที่บ่อเป็นระยะ
5. หากมีความสมบูรณ์แมลงป่องจะมีการผสมพันธ์กันตามธรรมชาติ
6.สังเกตุการตั้งท้องของตัวเมียได้จากการดูกล้ามเนื้อยึดระหว่างป้องที่3 - ปล้องที่ 7 ซึ่งจะขยายใหญ่ขึ้นแมลป่องช้างจะตั้งท้องประมาณ 1 ปีโดยแม่แมลงป่องจะไม่วางไข่เหมือนแมลงหรือแมลงชนิดอื่น ๆ แต่ออกลูกเป็นตัวจากช่องสืบพันธ์
7. หลังจากที่แมลงป่องช้างผสมพันธ์กันและตั้งท้องแล้ว ควรแยกตัวเมียออกมาเลี้ยงเดี่ยว
8.เมื่อแมลงป่องช้างคลอดลูกออกมา มีอายุได้ 1 เดือนให้นำแม่แมลงป่องนำกลับไปเลี้ยงในบ่อซีเมนเหมือนเดิม นำแมลงป่องช้างจากหลาย ๆ แม่มาเลี้ยงรวมกัน เพื่อเป็นการอนุบาล ซึ่งช่วยให้การจัดการมง่ายขึ้น และได้ลูกแมลงป่องช้างไกล้เคียงกัน เมื่อแมงป่องช้างอายุได้ 8 - 12 เดือน ก็สามารถจับจำหน่ายได้
สำหรับการเลี้ยงแมงป่องเป็นอาชีพเสริมรายได้ เพื่อความคุ้มค่ากับระยะเวลา และการลงทุน ควรเลี้ยงจำนวน 10 บ่อขึ้นไป สำหรับต้นทุนการเลี้ยงแมงป่องช้างต่อบ่อ ประกอบด้วย ค่าพันธ์ 1 บ่อใช้พ่อพันธุ์ 10 ตัว แม่พันธุ์ 20 ตัว รวม 30 ตัว ราคาจำหน่าย จับตามธรรมชาติ ตัวละ 10 บาท รวมค่าสายพันธุ์เป็นเงินจำนวน 300 บาท ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ภาชนะให้น้ำ ที่หลบซ่อน และไนรอนสีฟ้าปิดปากบ่ออยู่ที่ราคา 100 บาท ซึงค่าอาหารซึ่งใช้สัตว์เล็กและแมลงต่าง ๆ ต่อรุ่นประมาณ 100 บาทรวมต้นทุนต่อบ่อ 500 บาท ผลตอบแทนของการเลี้ยงแมงป่องช้าง ซึ่งหากมีการจัดการที่ดีโดยเฉพาะระยะแรกเกิดจนถึง 10 วัน แม่หนึ่งตัวให้ลูกเฉลี่ย 15 ตัว 1 บ่อมี 20 แม่ จะได้ลูกทั้งหมด 300 ตัว หลังจากเลี้ยง 1 ปีหากจำหน่อยเป็นแมลงทอดจำได้ราคาตัวละ 10 บาท ถ้าจำหน่ายเป็นพ่อแม่พันธุ์ตัวละ 50 บาท ดังนั้นต่อรอบการผลิตผู้เลี้ยงจะมีรายได้ 3,000 - 15,000 บาท ต่อบ่อเมื่อเลี้ยงจำนวน 10 บ่อ มีรายได้สูงถึง 150,000บาทต่อรอบการผลิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดขอนแก่น โทร 043-255-066
*****************************************************************************************************
*****************************************************************************************************